1. ถึงแม้ว่ามีโอกาสหาย 90% แต่ก็มีโอกาศกลับมาเป็นซ้ำได้ถึง 50 %
2.  

• เมื่อครบ 3 เดือน เอ็กซ์เรย์ กระดูกขาตรงที่มีช่องว่าง เริ่มมีเงาให้เห็นราง ๆ แสดงว่าเริ่มมีกระดูกงอก
• เมื่อครบ 6 เดือน เอ็กซ์เรย์กระดูกขา กระดูกงอกเพิ่มมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
•  

ปวดหัวเข่ามา 5-6 เดือน เดินขึ้นบันไดรถไฟฟ้า รู้สึกเจ็บที่หัวเข่าทั้ง 2 ข้าง เดิน ลงบันไดเจ็บนั่งขัดสมาธิหรือนั่งพับเพียบจะนั่งได้ไม่นานก็จะเริ่มปวดเข่า ต้องคอยสลับขา ต้องนั่งใส่กางเกงอยู่ที่ขอบเตียง เพราะกลัวล้มกลัวเจ็บในจังหวะที่งอขา มารู้จักกับ BIM เมื่อเดือนส.ค.56 3 วัน เริ่มรู้สึกดีขึ้น ก้าวขาเดินไม่ขัด และไม่รู้สึกตึงขามาก พอ 2 สัปดาห์เดินลงบันไดรถไฟฟ้า ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่ปวด ไม่ต้องจับราวบันได กลับมานั่งขัดสมาธิ นั่งพับเพียบได้ ยืนใส่กางเกงได้ใส่รองเท้าส้นสูง 1 นิ้วได้ นอกจากนี้แนะนำน้องกีฬาที่ปวดเข่าให้รู้จัก *BIM อยู่ 3 วัน หัวเข่ากลับมาเป็นปกติ และหลานที่เป็นกรดไหลย้อนรู้จัก *BIM ค่ะ(สีชมพู เช้า 2 เย็น 2 ต่อมา เปลี่ยนเป็นสีเขียว เช้า 1 เย็น 1)

คุณแสงระวี เสี้ยวสกุล ผู้มีปัญหาผิวหนังอักเสบ และืผื่นแพ้ตามตัว

เดิมที เป็นภูมิแพ้ผิวหนังเพียงเล็กน้อย เพราะร่างการยังแข็งแรงดีอยู่ หลังจากคลอดบุตรคนที่ 2 ต้องเลี้ยงดูเต็มเวลา พักผ่อนน้อย ทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบมากขึ้น เริ่มด้วยไอไม่หยุด เหมือนคนเป็นวัณโรค  ไม่ว่าจะโดนฝุ่น หรือ อากาศเย็นเหมือนมีเสมหะเต็มคอ  ตอนเช้าจะแน่นจมูก หายใจไม่ออก ต่อมามีตุ่มน้ำใสขึ้น ที่ปลายนิ้วมือ เริ่มจากหนึ่งถึงสอง เม็ด และ หนึ่งถึงสองนิ้ว ตุ่มเพิ่มขึ้นทีละนิดทีละหน่อย จนขึ้นเต็มทั้งนิ้ว  แล้วมีลักษณะผิวหน้าขึ้นเป็นชั้น มีตุ่มหนองอยู่ใต้ผิวหนัง พอตุ่มหนองแตกผิวก็จะลอกเป็นแผ่น ๆ ใช้มือจับของไม่ได้เลย เจ็บมาก ต่อมาลามไปผ่าเท้าด้วยอาการเหมือนกันคือ ผิวหนังหนาขึ้น ใต้ผิวหนังมีหนองเต็มไปหมด เดินไม่ค่อยได้ รู้สึกเจ็บ บางช่วงมีผื่นลมพิษขึ้นทั่วตัว  แพ้เกือบทุกอย่างไม่ว่าอาหาร เครื่องสำอาง น้ำยาล้างจาน สบู่ ถุงมือยาง หรืออากาศร้อน จนไม่รู้ว่าแพ้อไรกันแน่ โอนงานบ้านทั้งหมดและเรื่องเลี้ยงลูกให้สกับสามี พยายามดูแลปัญหานี้มานานเป็นปียังไม่ดีขึ้น จึงค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เนต พบบทความวิชาการระบุว่า "มังคุดช่วยในเรื่องแผลฝีหนองที่ผิวหนัง" จึงมาเริ่ม *BIM ร่วมกันกับยาอยู่ 3 เดือน ผื่นเก่ายุบ วงแคบลง ๆ ผื่นใหม่ไม่ขึ้นไม่ลุกลามดีขึ้นทั้งมือทั้งเท้า ผิวที่หนาลอกออกเหมือนการผลัดผิว หลังจากที่ *BIM ,เืกือบปี รอยแผลจากผื่นจางลง กับมาทำงานบ้าน และอุ้มลูกได้ ครอบครัวสมบูรณ์อย่างเดิม

เคย กินเหล้าหนัก และทำงานหนัก ใครเตือนก็ไม่เชื่อ มันมีความสุข บางครั้งคิดว่าการกินเหล้าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะควบคุมกับอาชีพของผม ผมค้าขายทั่วโลก คืนหนึ่งดื่มหนัก เพลียมาก ผมกลัวว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่า จึงไปตรวจ สุขภาพที่โรงพยาบาลพบว่าค่า AFP หรือดัชนีบ่งชี้ "มะเร็งตับ" ขึ้นไป 100ng/ml  (ค่าปกติอยู่ที่ 0-10 ng/ ml )จึงต้องทำ Ultrasound และ MRI ร่วมด้วยพบว่าก้อนเนื้อที่ตับ และเป็นเนื้อร้าย แพทย์ระบุว่า "โชคดีที่รู้ตัวก่อน ถ้าช้ากว่านี้อีก 2-3 เดือนอาจเป็นหนักเลย" เมื่อ ก.พ.2552  ไปผ่าก้อนเนื้อที่ตับขนาด 2.4×1.8×3 ซ.ม. ออกไป แพทย์แจ้งว่าหลังจากผ่าตัดแล้วมั่นใจว่ามีโอกาสอยู่ต่อไปได้อีก 3 ปี แต่ต้องนัดมาครวจเลือด, CT scan และ MRI ทุก ๆ 3  เดือน หลังผ่าตัด อาจารย์พิเชษฐ์แนะนำให้ *BIM พบว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ดีกว่าตอนผ่าตัดเสียอีกใครเห็นต่างดูไม่ออกว่าเป็นมะเร็ง เอาเป็นว่าเคยเป็นดีกว่าครับ เพราะผลตรวจปกติดี ค่า AFP อยู่ที่ 2-3  ng/ml  ปัจจุบันผม *BIM และอยู่มานาน 4 แแล้ว นอกจากนี้ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่นอนดึก ไม่เครียด เรื่องอาหารลูก ๆ ให้ ทานผักและปลา ห้ามของทอดและของหวาน อต่เรื่องแรกที่สำคัญของทุกคนที่เป็นมะเร็ง คือจิตใจต้องไม่กลัว และกำลังใจต้องดี

คุณจันทร์เพ็ญ  บุสภาพ  ผู้มีปัญหาสะเก็ดเงิน  

คุณพิเชษฐ์พงศ์ สุรภักดี ผู้มีปัญหาภูมิแพ้ ผื่นแพ้ กระเพาะ และข้ออักเสบจากเก๊าท์  ทั้งภูมิแพ้ ผื่นแพ้ และกระเพาะเป็น ๆ หาย เกือบ 30 ปี คัดจมูก กลางคืนหายใจไม่ออกต้องห่มผ้าหนา ๆ ที่หน้าอก  และเป็นหวัดลงคอบ่อยๆจนคออักเสบ และ เป็นผื่นนูนหนาตามตัว เพราะแพ้เสื้อผ้าใยสังเคราะห์ และปวดจุกเสียดท้อง ส่องกล้องพบแผลในกระเพาะ เริ่มดูแลภูมิคุ้มกันที่สมดุลตั้งแต่ปี 52 อยู่ 2 สัปดาห์เรื่องคันยุบยิบไม่ค่อยมี ต่อมาเรื่องภูมิแพ้ค่อยๆห่างไป และปวดจุกเสียดท้องก็ลดลง

ตั้งแต่ เด็กๆ เมื่ออยู่ในที่มีอากาศร้อน อากาศเย็น ตากลม ถูกฝุ่น หรือโดนแดด จามไม่หยุด คัดจมูกมาก ต่อมาแพ้ฝุ่น แพ้กลิ่นต้นไม้ใบหญ้าตอนกลางคืน แพ้กลิ่นดอกไม้แรงๆ และ 5-6 ปีก่อนมีปัญหากระเพาะ เคยตื่นขึ้นมาปวดท้องอย่างรุนแรง รู้สึกเจ็บแน่นๆในท้องเหมือนถูกบีบ ขาอ่อนแรงจนยืนไม่อยู่ และ 2 ปีก่อน ถ้าเครียด รู้สึกปวดศีรษะข้างซ้ายเหมือนโดนบีบกระหม่อมลามมาเบ้าตา ไมเกรนกำเริบเดือนละ 3-5 ครั้ง เริ่มดูแลภูมิคุ้มกันที่สมดุล*BIM เดือนต.ค.56 ในสัปดาห์แรกเรื่องภูมิแพ้เริ่มดีขึ้นก่อน ถึงแม้อากาศเย็น อากาศเปลี่ยนกลับจามน้อยลง คัดจมูกน้อยลง เจอฝุ่นไม่ค่อยเป็นอะไร โดนลมแรงๆก็ไม่เป็นหวัด ได้กลิ่นน้ำหอมฉุนก็ไม่จาม พอได้ 2-3 สัปดาห์ไม่ปวดท้องกระเพาะแล้ว ถึงแม้ทานข้าวไม่ตรงเวลาก็ตาม และตั้งแต่ภูมิคุ้มกันสมดุลขึ้นไม่ปวดไมเกรนครับ”

คุณสุวาสนา  พันเต น้องสาวผู้มีปัญหาผื่นแพ้ ไมเกรน พาหะไวรัสตับอักเสบบี และแผลช้ำที่หน้าอก  เป็นผื่นแพ้คันมา 10 ปี ต่อมาปี 54 เป็นหนักขึ้นไม่ว่าฝนตก อากาศร้อน หรืออากาศเย็นมีผื่นคันขึ้นตัวแดงไปหมดคันยุบยิบเกาเป็นลิง นอนไม่หลับ ทั้งยังเป็นตุ่มหนองทิ้งรอยแผลตามแขนขา บางทีถูกลมกรรโชกมาโดนตัวแล้วผื่นคันขึ้นและตาบวมปูด ทั้งเป็นคนติดหวัดง่ายถ้าใครไอจามมาแต่ไกลไม่ให้เข้ามาใกล้ต้องปิดปากจมูก ก่อนส่วนไมเกรนเป็นมา 10 กว่าปี ถ้าเครียด หรืออากาศเปลี่ยน ปวดขมับซ้ายเหมือนโดนค้อนทุบ คลื่นไส้ อาาเจียน ต้องรีบกลับมานอนในห้องเงียบ ๆ ปิดไฟให้มืด ๆ และเมื่อ 2-3ปีก่อน ผลตรวจเลือดพบว่าเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบปี และเมื่อปี55 ตกบันไดขณะปีนขึ้นไปเก็บดอกแค หน้าอกซ้ายกระแทกถูกไม้ที่ปักในกระถางทำให้มีเลือดคั่งเป็นรอยซ้ำที่อกซ้าย และแพ้พลาสเตอร์แปะแผลที่อกทำให้มีตุ่มคันขึ้นที่แผล และมีน้ำเหลืองไหล พี่สาวที่เป็นภูมิแพ้แนะนำให้รู้จัก *BIM เมื่อปี 55 อยู่ 3 เดือนทั้งผื่นแพ้ และไมเกรนไม่กำเริบอีกเลย หลายเดือนต่อมาแผลซ้ำที่หน้าอกดีขึ้น น้ำเหลือไม่ไหล แผลแห้งลง อาการอักเสบลดลงจบแผลหายสนิท ต่อมาผลตรวจเลือดจากสถานพยาบาล 3 แห่ง ระบุว่าตรวจไม่พบพาหะไวรัสตับอักเสบบีค่ะ (สีเขียว เช้า2แคปซูล กลางวัน 2 แคปซูล และเย็น 2 แคปซูล 1 เดือน ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีชมพูช้า 1 แคปซูล และสีเขียว เย็น 1 แคปซูล หมายเหตุแนะนำเป็นสีชมพูเช้า 2 แคปซูล และเย็น 2 แคปซูล กับน้ำมังคุดวันละ 1 ซอง หลังจากผื่นแพ้ดีขึ้น แนะนำเป็นสีเขียว เช้า 2 แคปซูล และเย็น 2 แคปซูล)

คุณวัสสุดา  พันธ์พินิจ  ผู้ที่มีปัญหา SLE /โรคพุ่มพวง

 ปวด ข้อนิ้วมือทุกนิ้ว เป็นไข้บ่อย ตากแดดมีผื่นรูปผีเสื้อขึ้นที่หน้า ปวดเมื่อตามตัว ข้อเท้าบวม ทั้ง 2 ข้าง เดินนาน ๆ ไม่ไหวเพราะปวดเข่า ตากแดดก็จะมีจุดจ้ำเลือด เหมือนเส้นเลือดเปาะบาง เป็นรอยฟกช้ำ ต่อมาเพื่อนแนะนำ 

คุณจินดา  สายแสงทอง  

       เป็นเบาหวานแต่ปี 31 และเริ่มฉีดอินซูลินเมื่อปี 42 ต่อมาตาขวามองไม่เห็น ส่วนตาซ้ายมัวมากจนอ่านหนังสือไม่ได้  ระดับน้ำตาลอยู่ระหว่าง 180-200 ม.ก./ด.ล. และ ตั้งแต่ 5 ปี ก่อน เริ่มปวดนิ้วกลางข้างซ้าย ผลตรวจว่าเป็นเก๊าท์  ทั้งยังมีปัญหาลูกสะบ้า หัวเข่าเสื่อม  เดินขึ้นบันไดลำบาก ต่อมากลางปี 56 ปวดที่หัวเข่าซ้าย เพราะเก๊าท์มากำเริมใหม่  ห้ามรับประทานยอดผัก ปลาหมึก กุ้ง ไก่ โดยเด็ดขาด  ต่อมาปวดมากจนยืน และเดินไม่ได้  นอนนิ่ง ๆ บนเตียงเกือบ 3 เดือน ต่อมาวันที่ 12 ส.ค.56 ลูกสาวแนะนำให้รู้จัก *BIM ในวันแรกเริ่มลุกจากเตียงมายืนได้ในวันที่ 2 ใช้ Walker เดินเข้าห้องน้ำได้ เดือน ต.ค56 ผลน้ำตาลอยู่ที่ 56 มก./ด.ล. ไม่เวียนศรีษะ ไม่คลื่นไส้ ลดอินซูลินลงได้ และตาซ้ายมัวน้อยลง เดือน พ.ย.56 ผลน้ำตาลอยู่ที่ 80 ม.ก./ด.ล. ลดอินซูลินลงอีก  เริ่มทานต้มยำกุ้ง และปลาหมึก โดยเก๊าท์ไม่กำเริบ เดินขึ้นบันได และย้ายที่นอนมานอนชั้นบนได้  วันที่ 18 ธค.56 ผลน้ำตาลอยู่ที่ 54 ม.ก./ด.ล. ไม่เวียนศรีษะไม่คลื่นไส้ แต่อย่างใด  ผลไตเริ่มดีขึ้น ลดอินซูลินลงอีก ทุกวันนี้เบาหวานดีขึ้นผิดหูผิดตา  ความดันไม่เกิน 120 เดินไปไหนมาไหนไม่ต้องใช้ Walker อีกทั้งไม่ต้องคุมอาหารแสลงเรื่องเก๊าท์มากนัก (สีชมพู เช้า  กลางวัน 2 และเย็น ครั้งละ 2  แคปซูล ต่อมาลด เช้า และ เย็น ครั้งละ 2 แคปซูล  และต่อมาลดลงอีก เช้า 1 แคปซูล หมายเหตุ สำหรับผู้ที่ต้องการดูแลเบาหวานโดยเฉพาะ แนะนำฟ้าวันละ 2-4 แคปซูล)

 ปวด หัวเข่าซ้าย 6-7 เดือน เจ็บลึก ๆ ในหัวเข่า  แต่กลางคืนนอนหลับแล้วตื่นมาปวดมากที่ข้อพับซ้าย จนลงจากเตียงไม่ได้  ถ้านั่งรถนาน ๆ จะลงจากรถแล้วยืนทันทีไม่ได้ ต้องพัก ค่อย ๆ ลุกเดินเปลี่ยนอิริยาบถ และนั่งพับเพียบ นั่งคุกเข่าไม่ได้เลย  เริ่มดูแลภูมิคุ้มกันที่สมดุล ด้วย BIM ตั้งแต่เดือน ต.ค.56 อยู่ 3 วัน เริ่มรู้สึกดีขึ้นอีก 2 สับดาห์ต่อมารุ้สึกตัวอีกทีอาการก็ดีขึ้นแล้ว กลางคืนตื่นขึ้นมาไม่ปวดพับซ้าย ลงจากเตียงเดินได้ปกติ ลุกขึ้นยืนจากชักโครกด้วยกำลังขาของตัวเองได้ ยืนใส่กางเกงได้ นั่งรถนาน ๆ ได้ ลงจากรถแล้วเดินต่อได้ทันที นั่งพับเพียบได้  ทุกวันนี้อาการดีขึ้น 80 % และไม่ต้องทานยาแล้วค่ะ

 คุณสมบัติ จันทร์เห็ม  ผู้มีปัญหาไมเกรน ปวดประจำเดือน และเอ็นข้อมืออักเสบ

 ปวดไมเกรนตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเดือน ละ 1-2 ครั้ง รู้สึก ปวดจี๊ดในศีรษะไล่ลงมาที่ท้ายทอย หัน ศีรษะซ้ายขวาไม่ได้เพราะจะอาเจียน และรู้สึกเหมือนเต้นตึ้บ ๆ ในศีรษะ หนักศีรษะข้างหนึ่งเบาข้างหนึ่ง บางทีรู้สึกตื้อ ๆ ทั้งวันจนอาเจียน บางครั้งก่อนไมเกรนกำเริบจะมีอาการนำมาก่อน เช่น ตาลายเห็นแสงวิบแว๊บเหมือนมีแสงหิ่งห้อยลอยอยู่ หรือเห็นเป็นอากาศสลัวครึ้มฟ้าครึ้มฝน อีก 15 นาทีต่อมาไมเกรนจึงกำเริบ และทุกเดือนปวดประจำเดือนมาก และเอ็นอักเสบที่ข้อมือขวามา 2  ปี เกร็งมือรู้สึกเจ็บแปลบเหมือนมีอะไรทิ่มเข้าหัวใจ นิ้วโป้งงอไม่ลง และต้องใส่เฝือกพยุงนิ้วโป้งไว้ ชมรายการสุข และสวย โดย BIM 100 มา นาน 3-4 เดือนจึงเริ่ม *BIM เมื่อ 4 ก.พ.56 อยู่ 2 วัน สังเกตว่าปวดประจำเดือนน้อยลง ครบ 15 วันตายังเห็นแสงวิบแว็บอยู่บ้างแต่ไม่ปวดศีรษะหลังจากไมเกรน และปวดประจำเดือนดีขึ้น จึงหันมาดูแลเอ็นอักเสบที่ข้อมือขวาแทน รู้สึกตัวอีกที อุ้มเด็ก ยกถังได้ นอกจากนี้งอขานั่งขัดสมาธิได้ และอาการเจ็บที่เอ็นร้อยหวายก็ไม่เป็นแล้ว ทุกวันนี้

มีอาการ ปวดหน่วง ๆ ตรงท้องน้อยด้าน ซ้ายมา 2-3 ปี ถ้านั่งยอง ๆ อยู่ ห้ามลุกพรวดพราด มิฉะนั้นรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ท้องน้อย และมีอาการคล้ายหน้ามืด ถ้าก้มดำนาก็ปวดหน่วง ๆ ที่ท้องน้อย ผลตรวจระบุเป็นปีกมดลูกอักเสบ และมีอาการปวดลึก ๆ ตั้งแต่สะโพกไล่ลงถึงต้นขาซ้าย และหัวเข่า พอขับรถมอเตอร์ไซค์นานรู้สึกชาทั้ง 2 มือ 2 เท้า ต้องจอดหยุดพัก 20 นาที เพราะเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นมา 2-3 ปี ทั้ง 2 อาการนี้มักกำเริบตอนทำงานหนักในสวนยางพารา ทั้งกรีดยาง เก็บยาง และลากก้อนยางด้วยตัวเอง พอดีเจ้านายเก่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว หลังจาก *BIM แล้ว ผลตรวจเลือดดีขึ้นจึงแนะนำให้เริ่ม *BIM ใน เดือนธ.ค.56 อยู่ 15 วันรู้สึกสบายเบาตัวไม่ปวดสะโพก ต้นขา และหัวเข่า ขี่รถมอเตอร์ไซด์ได้ไม่รู้สึกชามือชาเท้า ต่อมา 1 เดือนครึ่งลุกขึ้นยืนจากการนั่งยอง ๆ ก็ไม่เจ็บท้องน้อย ไปลากก้อนยางจากสวนได้ไม่รู้สึกปวดหน่วง ๆ ตรงท้องน้อยอีก นอกจากนี้ คุณแม่สามีที่ทอผ้าประจำจนเป็นนิ้วล็อคที่มือซ้าย รู้สึกปวดทั้ง 5 นิ้ว กำมือแล้วมีเสียงดังก๊อบ และปวดบวมตรงข้อมือ หลังจาก *BIM 15 วัน กำมือแล้วไม่ปวดนิ้ว ไม่มีเสียงสั่น ไม่ปวดข้อมือ แต่ยังเหลือบวมอยู่บ้างค่ะ (น้ำมังคุด 1 ซอง แบ่งเป็น 5 วัน และสีเขียว ก่อนนอน 2 แคปซูล)

 ผู้มีปัญหาปลายประสาทอักเสบ และภูมิแพ้  

เป็น ภูมิแพ้ 20 กว่าปี ถ้าโดนฝุ่น หรือผงชอล์กจะจามรู้สึกเคืองตา ลูกนัยน์ตาแดงทั้ง 2 ข้าง ต่อมาเปลือกตาบนและเปลือกตาล่างบวมปูด เป็นอยู่นาน 3-4 วันถึงจะยุบและในเดือน ก.ย.55 เช็ดทำความสะอาดตู้กระจก 75 ตู้ 3 วัน ติด ๆ กันเริ่มรู้สึกเมื่อยนิ้ว ต่อมามีอาการชาที่นิ้วชี้ นิ้วนาง นิ้วกลางทั้ง 2 มือ หยิบจับวัตถุสิ่งของแล้วเหมือนมือหนา ๆ ไม่มีความรู้สึก และปวดที่โคนนิ้วเหมือนเจ็บข้างในกระดูก กำมือไม่ได้ จับไม้กวาดรู้สึกปวด บิดฝาขวดน้ำไม่ออกเหมือนไม่มีแรง มือไม้ทำงานไม่ได้ตั้งใจ ผลตรวจเป็นปลายประสาทอักเสบ เคยดูแลมาหลายวิธี ทั้งทานยา แช่น้ำอุ่น นวดแผนโบราณ ประคบสมุนไพร ฝังเข็ม แช่พาราฟิน และกายภาพบำบัดก็ยังไม่ดีขึ้น บังเอิญต้นเดือน ม.ค.56 ชมรายการสุขและสวย โดย BIM100 จึงเริ่ม *BIM อยู่ 1 สัปดาห์ อาการชา และปวดที่นิ้วมือทั้ง 2 ข้างหายไป มือไม้กลับมาหยิบจับทำงานสะดวกคล่องแคล่วตามเดิม ต่อมาไม่มีอาการตาบวมจากภูมิแพ้แล้ว และท้องอืดที่เคยเป็นบ่อย ๆก็ไม่มี ทุกวันนี้ *BIM มาปีเศษเพื่อดูแลสุขภาพต่

 คุณจิราภา  บริสุทธ์  ผู้มีปัญหาเนื้องอกที่มดลูก 

ตั้งแต่ ปี  ก.ค.53 มีอาการปวดท้อง และตกเลือดเป็นลิ่ม ๆ ตรวจพบเนื้องอกที่มดลูก 4.8 ซ.ม. จึงต้องรับประทานยาเป็นต้นมา อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ผิวพรรณกร้านคล้ำ ต้นปี 55 รู้สึกปวดเมื่อยตัว หงุดหงิด หลับ ๆ ตื่น ๆ จึงเริ่ม *BIM เพื่ดูแลสุขภาพทั่วไปร่วมกับยาประจำตัว  ทำให้อาการต่าง ๆ และตกเลือดน้อยลง  ต่อมาเดือน กค.55 เนื่องอกคงเท่าเดิม ปกติ ต้นปี 56 กลับมาตกเลือดมากอีกครั้งจนทำงานไม่ไหว ปวดเมื่อยจนขาชา  ผลตรวจเป็นมดลูกอักเสบ ต่อมาเดือน เมษายน 56 รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ท้องอืดแน่นจนมึนศรีษะ คลื่นไส้ ปวดเมื่อยเนื้อตัว ตัวบวม ทุกคืนต้องให้ลูกชายบีบนวดเป็นประจำ ในเดือน กค.56 ผลตรวจเนื้องอกยงมีขนาดเท่าเดิม แต่มีการอักเสบที่มดลูก ตกเลือดมากจนเพลีย ปวดเนื้อตัว เอว และหน้าท้อง จึงต้งใจ *BIM อย่างจริงจังรวม 3 เดือน เริ่มแข็งแรงกลับมาทำงานไหว แม้ยังไม่เต็มร้อย และผลตรวจเลือด ต.ค.56 ขนาดก้อนเนื้อลดเหลือ 2.9 ซ.ม. ล่าสุดผลตรวจวันที่ 14 มค.57 ระบุว่ามดลูกปกติ และไม่ปวดประจำเดือนแล้ว ร่างกายแข็งแรง หน้าตาสดใส ผิวเนียนละเอียดขึ้น 

เมื่อปี 53 ปัสสาวะกระปริดกระปรอย ปัสสาวะ บ่อยแต่ไม่สุด รู้สึกขัดๆ ผลตรวจพบว่า PSA (ค่าบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก) สูงถึง 6 ng/ml เกินค่าปกติซึ่งอยู่ที่ 4 ng/ml จึงได้ยามารับประทาน อีก 6 เดือนค่า PSA เพิ่มเป็น 8-9 ng/ml แต่เมื่อเจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ 12 ชิ้น ผลตรวจยังคงเป็นปกติ จึงได้รับยาตัวเดิมมาทานต่อ อีก 6 เดือนต่อมาค่า PSA เพิ่มถึง 13 ng/ml บังเอิญได้ชมรายการสุข และสวยโดย BIM 100 ช่อง TNN 2 ประทับใจกับคำว่า “เป็นการปรับสมดุลภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อสมดุลแล้วโรคภัยไข้เจ็บจะไม่มี” จึงเริ่ม *BIM ดูแลภูมิคุ้มกันที่สมดุลร่วมกับยาเมื่อ 31 พ.ค. 55 นาน 3 เดือน ค่า PSA ลงมา 4.8 ng/ml จนลดยาลงได้ อีกทั้งปัสสาวะพุ่งปกติ ไม่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย และไม่ตื่นปัสสาวะตอนกลางคืน หลับสนิทถึงเช้าได้ วันที่ 30 มี.ค.56 แม้ค่า PSA อยู่ที่ 5.125 ng/ml

มา นาน 10 กว่่าปี ผื่นคัน ลมพิษ เสียงหริ่งในหู น้ำในหูไม่เท่ากัน บ้านหมุน หูอื้อ เสียงวีดในหู ก้มหน้าเวียนหัวหน้ามืด บ้านหมุน บ่่อย ๆ แพ้อากาศ อากาศเปลี่ยนแปลง ผื่นขึ้นคัน รามไปทั่วตัว พักผ่อนน้อย ปวดข้อเข่า  เริ่ม  BIM อาการต่่าง ๆ ค่อยดีขึ้น

ทั้ง คุณพ่อ และพี่ ๆ น้อง ๆ ทั้ง 8 คนเป็นภูมิแพ้เหมือนกันหมด ส่วนดิฉันเริ่มมีอาการตั้งแต่เล็ก ๆ ตื่นเช้ามาจาม น้ำมูกไหลจนถึงตานสายที่แดดออกอาการถึงหายไป พอโตเป็นสาวภูมิแพ้กลับหายไปเลย กระทั่งมาเดือนพ.ค.56 ขณะอยู่ในช่วงที่กำลังจะหมดประจำเดือน ภูมิ แพ้กลับมากำเริบใหม่ มีอาการหนักกว่าเดิมคือเป็นทั้งวัน ถ้าอากาศเปลี่ยนร้อนไปบ้างหนาวไปบ้าง ถูกพัดลมเป่าตรง ๆ โดนฝุ่น ควันบุหรี่ กลิ่นน้ำหอม หรืออยู่ในที่คนแออัด จะมีอาการจามไม่หยุดเป็นชั่วโมง น้ำมูกไหล คันตา ตาบวมรู้สึกแน่นจมูกทั้ง 2 ข้าง ต้อง ใช้ยาดมสูดดมทั้งวันให้จมูกโล่ง พอตอนกลางคืนต้องใช้ยาแก้แพ้ถึงจะนอนหลับ รู้จัก *BIM เมื่อวันที่ 3 ส.ค.56 ใน 3 วันแรกยังคงจามบ่อย ๆ อีก 1-2 วันต่อมาถึงจะจามน้อยลงเรื่อย ๆ พอ 7 วัน ภูมิแพ้กลับเป็นปกติหยุดจาม และตั้งแต่ *BIM มาไม่ต้องใช้ยาแก้แพ้ ทั้งผิวพรรณดีหน้าตาเต่งตึงขึ้นค่ะ(บิมสีเขียว เช้า 1 เย็น 1 ต่อมาเปลี่ยนเป็น เช้า 2 เย็น 2)

ผู้มีปัญหาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ยก ของหนักบ่อยครั้ง กระทั่่งเมื่อ 4 ปี ก่อนหลังจากนั่งทานข้าวอยู่ดี ๆ กลับลุกไม่ขึ้น เซล้มลงมาไม่มีแรงมาก ผลเอกซเรย์กระดูกปกติไม่ร้าวไม่หัก ต่อมามีอาการชามือ ชาเท้าทางซึกขวา และมีอาการปวดที่สะโพกก้นกบ เอว ขา และฝ่าเท้า ผลการตรวจระบุว่าเป็นหมองรองกระดูกทับเส้น ให้ยามาทานและทำกายภาพบำบัดสับดาห์ละ 3 ครั้ง ต้องให้สามีพยุงพาเข้าห้องน้ำ ไปไหนมาไหนใช้ไม้เท้าค้ำยัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นอาจจะต้องผ่าตัดแต่มีโอกาสเพียง 50:50 ต่อมาเจ็บที่ไหล่ขา มือขวา และยังปวดที่ขาซ้ายร่วมด้วย เมื่อกลางปี 55 สามีให้ *BIM พอได้ 1 เดือนเบาตัวขึ้น ตื่นแล้วไม่เพลียไม่เวียนศรีษะ ต่อมารวม 3-1 เดือน อาการดีขึ้นทุกอย่าง ไม่ปวดไม่ชา เดินได้ไม่ต้องใช้ไม่เท้า ทุกวันนี้ *BIM มา 1ปีเศษ ตื่นเช้ามาสดชื่นผิวพรรณดีหน้าตาเปล่งปลั่งค่ะ (สีชมพูเช้า 2 แคปซูล และสีเขียว เย็น 2 แคปซูล หมายเหตุ แนะนำเป็นสีชม เช้า 2 แคปซูล และเย็น 2 แคปซูล กับน้ำมังคุดวันละ 1 ซอง หลังจากคุณภาพชีวิตดีขึ้น แนะนำเป็นสีเขียววันละ 2-4 แคปซูล

หลังจากคลอดบุตรคนที่ 2 เป็นผิวหนังอักเสบเริ่มที่นิ้วมือมีผิวหนาขึ้นเห็นเป็นชั้น ๆ และ มีหนองอยู่ใต้ผิวหนัง เคยใช้เข็มเจาะจนหนองไหลออกมา ต่อมาเริ่มเป็นที่นิ้วเท้า ทำให้เดินไปถนัด รู้สึกเจ็บต้องหารองเท้านิ่ม ๆ มาใส่ ต่อมาเป็นมากขึ้นที่มือ เท้า และเล็บ ในบางช่วงยังมีผื่นผลพิษขึ้นทั่วตัว เพราะแพ้สารเคมี อะไรนิดอระไรหน่อย ก็แพ้ ต้องระวังสบู่ เครื่องสำอาง ถุงมือยาง หรือแม้แต่อาการศร้อน เคยทานยาสเตียรอยด์จนตัวบวมน้ำหนักขึ้นจาก 55กก. เป็น 63 กก. เริ่มหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเริ่ม *BIM เมื่อกลางปี 53 พบว่าผื่นที่ตัวแห้งลงทุกวัน ๆ ตกสะเก็ดเร็วมาก ดีขึ้นทั้งมือทั้งเท้า ผิวที่หนาลอกออกเหมือนเป็นการผลัดผิว ผิวขึ้นใหม่มีสีแดง เหมือนผิวเด็ก หลังจาก*BIM เกือบปีไม่เหลือรอยแผลตามตัว ปัจจุบัน *BIM อย่างต่อเนื่องมา 3 ปีกว่า นอกจากนี้ลองทา Asianlife Revitalizing Cream ก่อนนอน นวดยกขึ้น 1-2 นาที ภายใน 1 สับดาห์ รู้สึกหน้าตึงมาก ริ้วรอยตื้นขึ้น แก้มดูเรียวเล็กหน้าเนียนนุ่มค่ะ (น้ำมังคุด เช้า 1 ซอง กับบิมเสีเขียว ก่อนนอน 2 แคปซูล หมายเหตุ และนำเป็นสีชมพูเช้า 2 แคปซูล และเย็น 2 แคปซูล กับน้ำมังคุดวันละ 1 ซอง หลังจากคุณภาพชีวิตดีขึ้น แนะนำเป็นสีเขียว วันละ 2-4 แคปซูล)

ข้อเข่าเสื่อม ไซนัสอักเสบ ซีสต์ที่รังไข่ บ้านหมุน เวียนหัว หูดที่นิ้วมือ  มี ปัญหาสุขภาพหลายอย่าง  ปวดนิ้วมือที่นิ้วชี้ และนิ้วกลางเพราะเป็นข้อนิ้วเสื่อมมา 10 กว่าปี แตะถูกข้อนิ้วไม่ได้  ถูกเบา ๆ จะปวดร้าวขึ้นม หรือสะบัดนิ้วมือไปชนอะไรเบา ๆ ก็ปวดจนน้ำตาเล็ด  ไซนัสอักเสบเรื้อรัง 10 ปี และผล CT scan เมื่อปี 55 พบหนองต้างอยู่ที่โพรงหลังศรีษะ   เมื่อ 6 ปีก่อนตรวจสุขภาพประจำปีพบซีสในรังไข่ ตกใจมากเพราะเป็นภัยเงียบที่อากลายเป็นมะเร็งได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตรวจอยูทุกปีไม่เคยเจอ  ตั้งแต่ปี 52 มีอาการบ้านหมุน และเป็นบ่อยขึ้นเรื่อย จากปีละครั้งเป็นเดือนละ 2 ครั้งเคยเป็นหนักเสียจนไม่รู้สึกตัว ต้องเรียกรถฉุกเฉินมารับถึบ้าน เวลานั่งต้องระวังไม่ให้ตัวโคลง  เป็นหูดที่นิ้วชี้มือขวามา 3 ปี  รู้จัก BIM จากรายการสุขและสวย โดย BIM100 "บิมร้อย"

 เป็น มะเร็งปากมดลูก ปลายปี 2551  เป็นขั้น 3 มีอาการปวดท้อง มีเลือดออกมาเป็นลิ่มตลอดเข้ารับการรักษา ฉายแสงมา 50 ครั้ง ผลการตรวจก็ไม่ดีขึ้น พบที่รามไปที่ต่อมน้ำเหลือง  รู้จัก BIM จากคนไข้  จึงเร่ิมBIM ประมาณ 1 เดือน มีการเปลี่ยนแปลงขึ้น ทานข้าวได้ นอนหลับ ผิวพรรณดีขึ้น อาการต่าง ๆ เร่ิมดีขึ้น  (บิมสีเขียว เช้า กลางวัน เย็น ครั้งละ 3 แคปซูล)

 นายสุเทพ แหวนทอง ผู้มีปัญหามะเร็งต่อมลูกหมากลามไปที่กระดูกสันหลัง

        เริ่มจากร่างกายอ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อยครั้ง แต่กระปริดกระปรอย บางครั้งมีเลือดปนออกมา เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามข้อ ภายใน 2 เดือน น้ำหักลดลงไป 20 ก.ก. เบื่ออาหาร ปวดเมื่อย ตามข้อ ภายใน 2 เดือน น้ำหนักลดลงไป 20 ก.ก. เมื่อต้นปี 54ไปตรวจร่างกายหลายครั้งใช้เวลาอยู่ 2 เดือน จนกระทั้่งพบว่าดัชนีมะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) สูงมากอยู่ที่ 100 mg/ml (คนปกติต้องน้อยกว่า 4.0 ng/ml) จึงตัดเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากไปตรวจ ปรากฏว่าเป็นมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก แพทย์จึงทำการผ่าตัดมะเร็งออกไป เมื่อวันที่ 15 มี.ค.54 และเริ่มเดนไม่ได้ในเย็นวันนั้น ต่อมาตรวจ MRI พบว่ามะเร็งเริ่มลามไปกระดูกสันหลังและอาจเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ เพราะมะเร็งลามไปทำลายกระดูกสันหลังทำให้ทรุดไปทับเส้นประสาทที่หลัง  หลังจากที่แผลผ่าตัดหายดีแล้ว เมื่อวันที่ 25 มี.ค.54 จึงทำการฉายแสงติดต่อกัน 10 วัน ระหว่างที่นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล เป็นอัมพาตครึ่งซึก ร่างกายท่นล่างตั้งแต่เอวจนถึงปลายเท้าจะกรดดิกกระเดี้ยวตัวไม่ไ้ด้เดินไม่ ได้เริ่ม *BIM ตั้งแต่วันทืี่ 19 เม.ย.54 พอเดือน มี.ค.55(ประมาณ 11 เดือน) ค่า PSA อยู่ที่ 0.82 ืng/ml สุขภาพโดยรวมทั้งหมดดีขึ้นถึง 70% จากเดิ่มตอนเริ่มต้นที่เป็นศูนย์  วันที่ 6 สค.55 (ประมาณ 16 เดือน) สุขภาพแข็งแรงดี คุณภาพชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิมที่เร่ิมรักษาครั้งแรกเดินไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ช่วยเหลือตัวเองได้ครับ เข้าห้องน้ำ ทานอาหารเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นให้เดือดร้อนใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินระยะใกล้ได้ สามารถนั่งนาน ๆ ได้ (บิมร้อยสีเขียวและน้ำมังคุดบิม)

ปลาย ปี 54 มีแผลที่นิ้วชี้เท้าซ้ายและลุกลามมากขึ้น เมื่อ ก.พ.55 ไปตรวจถึงทราบว่าเป้นแผลที่เกิดจากเบาหวาน แผลน่ากลัวมากถึงต้องนอนรักษาตัวใน ร.พ.ทันที บางวันน้ำตาลขึ้น 200 กว่า ต้องฉีดอินซูลินเกือบทุกวัน แผลที่เท้ามีสีดำส่งกลิ่นเหม็น ภายหลังแผลลามไปที่นิ้วกลางเท้าซ้าย จนต้องตัดนิ้วชี้และนิ้วกลางเท้าซ้ายทิ้ง ต่อมายังเป็นแผลที่นิ้วโป้ง และนิ้วก้อยเท้าขวา นิ้วก้อยเน่าเสีย จนหลุดออกไปเองครึ่งนิ้ว  และต้องกรึดฝ่าเท้าเพื่อระบายหมองออกมา  ถ้าแผลไม่หาย ต้องตัดทิ้งจนถึงข้อเท้า  ต่อมาต้องให้อาหารทางสายยาง น้ำหนักตัวเหลือ 39 กก. หลังจากนอน รพ.อยู่ 7 เดือนจึงขอกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านยังคงอ่อนเพลียเหนื่อง่าย และแผลที่นิ้วโป้งเท้าขวาเป็นเนื้อตายสีดำ  มีหนอง เริ่ม *BIM เมื่อ ก.ย.55 ร่วมกบยาประจำตัว 2-3 วันต่อมา เริ่มทานข้าวได้ พอครบ 1 เดือน แผลที่นิ้วเท้าขวาเริ่มสมานตัว ร่างกายไม่เพลีย ไม่เหนื่อยง่าย ผ่านไป 2-3 เดือน แผลสมานหายสนิทดี ไม่ต้องตัดข้อเท้าทิ้ง ครบ 4 เดือน รู้สึกดีขึ้นทุกอย่าง ล่าสุด 1 เม.ย.56 น้ำตาลอยู่ที่ 110 เศษ  น้ำหนักตัวขึ้นเป็น 71 กก 

 เมื่อ 3 ปีก่อน คลื่นไส้อาเจียน แน่นหน้าอก เหนื่อย เพลีย อยาก นอนทั้งวัน ผลตรวจเป็นเบาหวาน น้ำตาล 180 จึงเริ่มทานยาเบาหวาน น้ำตาลจึงลงมาอยู่ที่ 130-160 แต่ยังปัสสาวะบ่อยคื่นละ 3-4 ครั้งทำให้หลับไม่สนิท ขึ้นสะพานลอยโดยใช้มือเกราะราวสะพานแล้วโหนตัวเดินขึ้น ขึ้นถึงกลางสะพานรู้สึกเหนื่อยต้องหยุดพัก หรือเดินพื้นราบไม่เกิน 500 เมตรก็เหนื่อย แข้งขาไม่มีแรง ทำงานก็เหนื่อยง่าย ปวดเมื่อยเนื้อตัวตึง พอนั่งพักเอนตัวเมื่อไหร่จะหลับทุกครั้ง สังเกตเห็นมดขึ้นในห้องน้ำ หลังจากปัสสาวะและรู้สึกชาหัวไหล่ซ้ายถึงปลายนิ้วก้อย นิ้วนาง สะโพก และน่องขา ถ้ายืนนานเหน็บจะกินขาซ้าย เริ่ม *BIM เมื่อเดือนมิ.ย.56 ร่วมกับยาและคุมอาหารมือเย็นอยู่ 2 สัปดาห์ กลางคืนปัสสาวะน้อยลง และไม่มีมดมาตอมพอ 1 เดือน ทำงานแล้วไม่เหนื่อย ไม่หอบ ต่อมา 1 เดือนเศษ เดินได้ไกลขึ้นเป็นกิโล ไม่ง่วงนอนกลางวัน ไม่ปวด ไม่เมื่อย เรื่องชาแขนชาขาดีขึ้น 60-70% กลางคืนปัสสาวะครั้งเดียวจึงหลับสนิท ไม่ต้องพักเหนื่อย ไม่ต้องใช้มือโหนราวขณะขึ้นสะพานลอย และน้ำตาลอยู่ที่ 89 ทุกวันนี้ *BIM ย่างเข้าเดือนที่ 5 และหยุดยาประจำตัวค่ะ (สีฟ้า เช้า 2 แคปซูลและเย็น 2 แคปซูล)

ทำ งานหนักเดินเยอะ และยกของหนักเป็นประจำ  ตั้งแต่ปีก่อนเวลายืนนาน ๆ รู้สึกปวดร้อนที่หัวเข่า และรู้สึกชาที่ขาซ้าย ตอนขึ้นบันไดรู้สึกเสียวหัวเข่า ส่วนตอนลงบันไดมีแรงกดลงที่หัวเข่ซ้ายทำให้รู้สึกเข่าขัด ๆ ถ้าคุกเข่าก็ปวด นั่งขัดสมาธิก็ปวด ผลเอกซเรย์หัวเข่าซ้ายพบกระดูกชนกัน ไม่เหลือกระดูกอ่อนที่คั่นอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นอาการหัวเข่าเสื่อม ต่อมาหัวเข่าขวาเริ่มปวดขึ้นมาบ้าง ต้องใช้ผ้ารัดหัวเข่าทั้ง 2 ข้างตลอดทั้งวันเพื่อช่วยพยุงหัวเข่าไว้ ต่อมารู้สึกปวดมากเหมือนร้าวไปทั้งตัว ต้นเดือนมิ.ย.56 มีคนแนะนำให้รู้จัก *BIM